สารบัญ
- การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงของหวาน แต่ยังต้องระวังกับ “สุขภาพดีเทียม” ที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง!
- เข้าใจผิดเกี่ยวกับขนมปังโฮลวีตและโยเกิร์ตไขมันต่ำ ระวังน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
- จัดมื้ออาหารอย่างชาญฉลาด ควบคุมน้ำตาลในเลือดโดยไม่ต้องอดอาหาร
- ทำความเข้าใจกับ GI และ GL คือขั้นตอนแรกในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- สรุป: เลือกอาหารอย่างชาญฉลาด หลีกเลี่ยงกับดักน้ำตาล
- Q&A
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงของหวาน แต่ยังต้องระวังกับ “สุขภาพดีเทียม” ที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง!
KUBET หลายคนคิดว่าอาหารที่มีป้ายบอกว่า “โฮลวีต” หรือ “ไขมันต่ำ” นั้นดีต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริง อาหารเหล่านี้ในกระบวนการผลิตมักมีการเพิ่มแป้งขัดสีและน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ดัชนีระดับน้ำตาล (GI) ของอาหารเหล่านี้สูงกว่าข้าวขาวและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเสียอีก KUBET นักโภชนาการเซียว เสียวจิ้นเตือนว่า แม้อาหารเหล่านี้ดูเหมือนจะดีต่อสุขภาพ KUBETแต่ก็อาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นภาระต่อสุขภาพ

เข้าใจผิดเกี่ยวกับขนมปังโฮลวีตและโยเกิร์ตไขมันต่ำ ระวังน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
เซียว เสียวจิ้นได้กล่าวไว้ในเพจเฟซบุ๊ก “บันทึกชีวิตของนักโภชนาการแม่เสียวจิ้น” ว่า อาหารหลายชนิดที่บอกว่าเป็น “โฮลวีต” หรือ “ไขมันต่ำ” ในตลาดจริงๆ อาจไม่ดีต่อสุขภาพอย่างที่คิด อาหารเหล่านี้อาจมีการเพิ่มแป้งขัดสีและน้ำตาลจำนวนมากในกระบวนการผลิต KUBETทำให้ดัชนีระดับน้ำตาล (GI) สูงกว่าข้าวขาวหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
ตัวอย่างเช่น:
- ขนมปังโฮลวีต: ถึงแม้จะระบุว่าเป็นโฮลวีต แต่หลายๆ ขนมปังโฮลวีตจริงๆ แล้วส่วนใหญ่ทำจากแป้งขาว และมีส่วนผสมของโฮลวีตแค่เล็กน้อย ซึ่งทำให้ GI สูงอยู่ดี
- โยเกิร์ตไขมันต่ำ: เพื่อให้รสชาติอร่อยและเพิ่มความหวาน หลายๆ แบรนด์จะเพิ่มน้ำตาลเข้าไป ทำให้ GI ของมันสูงกว่าที่คาดไว้
- เส้นหมี่และเส้นบุก: ถึงแม้จะดูเหมือนอาหารเบาๆ แต่ในกระบวนการผลิตจะเอากากใยอาหารออกไปมาก ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเร็วขึ้น
จากการศึกษาของวารสาร Cardiovascular Research (2021) และ Nutrition (2019) ระบุว่า การรับประทานอาหารที่มี GI หรือ GL (ภาระน้ำตาล) สูงมีความสัมพันธ์กับโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และการดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเตือนให้เราทราบว่า KUBETการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงขนมหวาน แต่ยังต้องระวัง “อาหารที่ซ่อนเร้น” KUBETที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
จัดมื้ออาหารอย่างชาญฉลาด ควบคุมน้ำตาลในเลือดโดยไม่ต้องอดอาหาร
เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือดที่มากเกินไป KUBETนักโภชนาการแนะนำให้ปรับมื้ออาหารในแต่ละวันให้มีอาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด:
- มื้อเช้า: โยเกิร์ตกรีกแบบไม่มีน้ำตาล + เมล็ดเจีย + วอลนัท + บลูเบอร์รี การรวมกันนี้ช่วยให้ได้โปรตีน น้ำมันดี และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความอิ่ม
- มื้อกลางวัน: ข้าวกล้องกับบร็อคโคลี + ขาไก่อบ + บร็อคโคลีผัด การรวมกันนี้มีไฟเบอร์สูงและโปรตีนสูง ช่วยให้ความอิ่มยาวนานและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- มื้อเย็น: เส้นคอนยัก + ซุปเต้าหู้มิโสะ + ปลาแซลมอนอบ + เห็ดไม้เย็นผัด การรวมกันนี้มี GI ต่ำและมีสารอาหารที่สมดุล ซึ่งเหมาะสมสำหรับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ทำความเข้าใจกับ GI และ GL คือขั้นตอนแรกในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
เซียว เสียวจิ้นยังได้เสริมว่า GI (ดัชนีระดับน้ำตาล) แสดงให้เห็นถึงความเร็วที่อาหารทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ในขณะที่ GL (ภาระน้ำตาล) KUBETจะคำนึงถึงปริมาณอาหารที่รับประทานและผลกระทบโดยรวมต่อระดับน้ำตาลในเลือด เธอเน้นว่า “GI คือความเร็ว, GL คือปริมาณ” ดังนั้นกลยุทธ์การควบคุมระดับน้ำตาลที่มีประสิทธิภาพจริงๆ KUBETคือการเลือกอาหารที่เหมาะสมและควบคุมปริมาณที่รับประทาน
ตัวอย่างเช่น:
- แตงโม: ถึงแม้ GI ของแตงโมจะสูง แต่เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลไม่มาก จึงทำให้ GL ไม่สูง และการรับประทานในปริมาณพอเหมาะจะไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดมากเกินไป
- ข้าวขาว: แม้ GI ของข้าวขาวจะไม่สูงมาก แต่ถ้ากินเกินปริมาณก็ยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ ดังนั้นการควบคุมปริมาณของอาหารโดยเฉพาะอาหารที่มี GI สูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การรู้จักวิธีการอ่านฉลากโภชนาการและส่วนผสมต่างๆ จะช่วยให้เราควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
สรุป: เลือกอาหารอย่างชาญฉลาด หลีกเลี่ยงกับดักน้ำตาล
แม้ว่าอาหารหลายประเภทในตลาดจะระบุว่าเป็น “สุขภาพดี” แต่เราต้องระมัดระวังในการเลือกอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปและซ่อนน้ำตาลและแป้งขัดสี ผ่านการทำความเข้าใจกับ GI และ GL รวมกับการวางแผนมื้ออาหารอย่างเหมาะสม KUBETเราสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีและรักษานิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพ
Q&A
1. ถาม: ทำไมขนมปังโฮลวีตบางชนิดจึงไม่ดีต่อสุขภาพ?
ตอบ: ขนมปังโฮลวีตบางชนิดแม้จะระบุว่าเป็นโฮลวีต แต่จริงๆ แล้วมักทำจากแป้งขาวและมีส่วนผสมของโฮลวีตแค่เล็กน้อย ซึ่งทำให้ดัชนีระดับน้ำตาล (GI) สูงอยู่ดี และอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
2. ถาม: ทำไมโยเกิร์ตไขมันต่ำบางแบรนด์ถึงไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด?
ตอบ: โยเกิร์ตไขมันต่ำหลายแบรนด์จะมีการเติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติ ทำให้ GI ของมันสูงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
3. ถาม: อาหารที่มี GI สูงมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร?
ตอบ: อาหารที่มี GI สูง เช่น ขนมปังโฮลวีตบางชนิดและโยเกิร์ตไขมันต่ำอาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และการดื้อต่ออินซูลิน
4. ถาม: มื้ออาหารแบบไหนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี?
ตอบ: มื้อเช้าแนะนำให้รับประทานโยเกิร์ตกรีกแบบไม่มีน้ำตาล + เมล็ดเจีย + วอลนัท + บลูเบอร์รี ซึ่งช่วยให้ได้โปรตีนและสารต้านอนุมูลอิสระ ขณะที่มื้อกลางวันควรมีข้าวกล้องกับบร็อคโคลีและขาไก่อบ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
5. ถาม: GI และ GL ต่างกันอย่างไรในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด?
ตอบ: GI (ดัชนีระดับน้ำตาล) แสดงถึงความเร็วที่อาหารทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ส่วน GL (ภาระน้ำตาล) คำนึงถึงปริมาณอาหารที่รับประทานและผลกระทบโดยรวมต่อระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นการเลือกอาหารที่มี GI ต่ำและควบคุมปริมาณการทานจึงสำคัญ
เนื้อหาที่น่าสนใจ: