สารบัญ
- บทนำ
- ช่วยระบบย่อยอาหาร
- เสริมภูมิคุ้มกัน
- แคลอรี่ต่ำและให้ความอิ่ม
- กลิ่นเปลือกส้มช่วยผ่อนคลาย
- เวลาที่กินส้มดีที่สุด
- Q&A
บทนำ
ช่วงนี้เป็นฤดูส้ม เหมาะแก่การรับประทานส้มที่สุด ตามคำแนะนำของ World Gym และงานวิจัยของ ศาสตราจารย์ โอทะ สึกุโตะ จากมหาวิทยาลัยการแพทย์อาซาฮิกาวะ ประเทศญี่ปุ่น พบว่า ส้มไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย งานวิจัยพบว่า KUBET เมื่อนำหนูไปดมกลิ่นเปลือกส้ม ระบบประสาทซิมพาเธติกถูกกระตุ้น อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น KUBET ความอยากอาหารลดลง และการเผาผลาญไขมันดีขึ้น สาเหตุอาจมาจาก สารลิโมนีน (น้ำมันหอมระเหยจากเลมอน) ในเปลือกส้ม ซึ่งช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน การดมกลิ่นส้มยังช่วยให้ผ่อนคลาย KUBET ลดความเครียด ทำให้ส้มเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและอารมณ์
| หัวข้อ | รายละเอียด |
|---|---|
| ฤดูกาล | ฤดูส้ม เหมาะแก่การรับประทานส้มที่สุด |
| แหล่งอ้างอิง | World Gym, ศาสตราจารย์ โอทะ สึกุโตะ มหาวิทยาลัยการแพทย์อาซาฮิกาวะ ประเทศญี่ปุ่น |
| ประโยชน์หลัก | ดีต่อสุขภาพและอารมณ์ |
| ผลวิจัย (หนูทดลอง) | – ดมกลิ่นเปลือกส้ม → ระบบประสาทซิมพาเธติกถูกกระตุ้น- อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น- ความอยากอาหารลดลง- การเผาผลาญไขมันดีขึ้น |
| สารสำคัญ | ลิโมนีน (น้ำมันหอมระเหยจากเลมอนในเปลือกส้ม) |
| ผลเสริม | ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด |
ช่วยระบบย่อยอาหาร
ส้มมีใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ KUBET ลดความรู้สึกอึดอัดจากอาหารมัน โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มักกินชาบูหรือบาร์บีคิวมากเกินไป อาจเกิดท้องอืด ท้องผูก หรือย่อยไม่ดี การกินส้มหลังมื้ออาหารช่วยสนับสนุนระบบย่อยอาหารอย่างอ่อนโยน เคล็ดลับ: เดินเล่นหรือออกกำลังกายเบา ๆ หลังมื้ออาหาร KUBET ช่วยให้ลำไส้ทำงานและย่อยอาหารได้ดีขึ้น
เสริมภูมิคุ้มกัน
ส้มอุดมด้วย วิตามิน C ช่วยรักษาสุขภาพภูมิคุ้มกัน เพิ่มความสามารถในการต้านหวัดและการติดเชื้อ นอกจากนี้ ส้มมีสารพฤกษเคมีเฉพาะกลุ่มเช่น เฮสเพอริดิน (Hesperidin) และ นารินจิน (Naringin) ช่วยปรับความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ควบคุมไขมันในเลือด KUBET และลดการอักเสบ มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เคล็ดลับ: กินส้มวันละ 1 ลูก ควบคู่กับอาหารที่สมดุล ช่วยเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ
แคลอรี่ต่ำและให้ความอิ่ม
ส้ม 100 กรัม มีเพียง 44 แคลอรี่ แต่เต็มไปด้วยใยอาหาร วิตามิน และน้ำ ทำให้รู้สึกอิ่มง่าย ช่วยควบคุมการบริโภคพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เคล็ดลับ: กินส้มหลังมื้ออาหารหรือเป็นของว่างช่วงบ่าย KUBET ตอบสนองความอยากอาหารโดยไม่เพิ่มแคลอรี่
กลิ่นเปลือกส้มช่วยผ่อนคลาย
กลิ่นจากเปลือกส้มช่วยลดความเครียด ความตึงเครียด และความวิตกกังวล ทำให้ร่างกายกลับสู่ความสมดุล เมื่อร่างกายผ่อนคลาย ความอยากอาหารก็ไม่ควบคุมตัวเองในช่วงเครียด เคล็ดลับ: นอกจากกินส้มแล้ว KUBET สามารถใช้เปลือกส้มชงชาหรือวางไว้บนโต๊ะทำงาน ดมกลิ่นก็ช่วยให้ผ่อนคลาย
เวลาที่กินส้มดีที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า กินส้มหลังมื้ออาหาร 1 ชั่วโมง จะช่วยลดไขมันและส่งเสริมการเผาผลาญ เพราะกระเพาะอาหารเริ่มว่าง ใยอาหารดูดซับไขมันได้ดี และลดการระคายเคืองจากกรด KUBET สรุป: ส้มไม่ใช่แค่ผลไม้ฤดูหนาวอร่อย แต่ยังช่วยย่อยอาหาร เสริมภูมิคุ้มกัน แคลอรี่ต่ำ และช่วยผ่อนคลาย หากกินให้ถูกเวลาและวิธี จะได้รับประโยชน์สูงสุด KUBET
Q&A
Q1: เวลากินส้มที่เหมาะสมที่สุดเพื่อช่วยลดไขมันคือเมื่อใด?
A1: กินส้ม หลังมื้ออาหาร 1 ชั่วโมง เพราะกระเพาะอาหารเริ่มว่าง ใยอาหารดูดซับไขมันได้ดี และช่วยเพิ่มความอิ่ม
Q2: ส้มช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้อย่างไร?
A2: ส้มมี วิตามิน C และสารพฤกษเคมีเช่น เฮสเพอริดินและนารินจิน ช่วยรักษาภูมิคุ้มกัน ปรับความยืดหยุ่นหลอดเลือด ควบคุมไขมันในเลือด และลดการอักเสบ
Q3: ทำไมกลิ่นเปลือกส้มถึงช่วยให้ผ่อนคลาย?
A3: กลิ่นจากเปลือกส้มช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และความตึงเครียด ทำให้ร่างกายกลับสู่ความสมดุล และลดความอยากอาหารในช่วงเครียด
Q4: ข้อดีของส้มด้านการลดแคลอรี่และความอิ่มคืออะไร?
A4: ส้ม 100 กรัม มีเพียง 44 แคลอรี่ แต่มีใยอาหาร วิตามิน และน้ำสูง ทำให้รู้สึกอิ่มง่าย ช่วยควบคุมปริมาณพลังงานที่บริโภค
Q5: ควรกินส้มวันละกี่ลูกจึงเหมาะสม?
A5: แนะนำ ไม่เกินวันละ 2 ลูก เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของน้ำตาล และเพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพโดยไม่เพิ่มแคลอรี่เกินจำเป็น
เนื้อหาที่น่าสนใจ:















