สารบัญ
- บทนำ
- โรคเลปโตสไปโรซิสคืออะไร?
- อาการของโรคหลังติดเชื้อ
- ใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง?
- วิธีป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส
- คำเตือนจากแพทย์: ระวังหลังน้ำท่วม
- สรุป
- Q&A
บทนำ
ช่วงนี้ไต้หวันได้รับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักเป็นระยะ ๆ นายแพทย์กั๋ว ตงเอิน จากคลินิกเหรินเหอ แผนกตับ ถุงน้ำดี และทางเดินอาหาร เตือนประชาชนว่า หากในช่วงนี้มีการสัมผัสดินหรือแหล่งน้ำที่ปนเปื้อน KUBET อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ “โรคเลปโตสไปโรซิส” (Leptospirosis) ซึ่งมีอาการเริ่มต้นคล้ายกับไข้หวัด เช่น มีไข้ ปวดหัว ท้องเสีย หรือแน่นท้อง หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจรุนแรงจนถึงขั้นไตวาย KUBET มีเลือดออกในร่างกาย หรือเสียชีวิตได้
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
สภาพอากาศ | พายุไต้ฝุ่นและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีฝนตกหนักเป็นระยะ ๆ |
ผู้ให้คำแนะนำ | นายแพทย์กั๋ว ตงเอิน จากคลินิกเหรินเหอ แผนกตับ ถุงน้ำดี และทางเดินอาหาร |
ความเสี่ยง | การสัมผัสดินหรือแหล่งน้ำปนเปื้อน อาจติดเชื้อโรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) |
อาการเริ่มต้น | คล้ายไข้หวัด เช่น มีไข้ ปวดหัว ท้องเสีย หรือแน่นท้อง |
ภาวะแทรกซ้อน | หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจเกิดไตวาย มีเลือดออกในร่างกาย หรือเสียชีวิต |
โรคเลปโตสไปโรซิสคืออะไร?
แพทย์กั๋ว ตงเอิน อธิบายว่า โรคเลปโตสไปโรซิสเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อว่า Leptospira เป็นโรคที่ติดต่อระหว่างคนและสัตว์ KUBET พบมากในเขตร้อนและกึ่งร้อน เชื้อนี้มีลักษณะเป็นเส้นบางยาวและโค้งคล้ายตะขอ สามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นเป็นเวลานาน สัตว์ที่เป็นพาหะของเชื้อได้แก่ หนู สุนัข หมู วัว ม้า และแกะ ซึ่งเชื้อสามารถปนออกมากับปัสสาวะของสัตว์เหล่านี้ และเมื่อไปปนเปื้อนในดินหรือน้ำ KUBET ก็สามารถแพร่เชื่มสู่คนได้
อาการของโรคหลังติดเชื้อ
โรคเลปโตสไปโรซิสมีอาการที่หลากหลาย และระยะแรกมักคล้ายไข้หวัด KUBET ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ทันระวัง แพทย์กั๋ว ตงเอิน ระบุว่า อาการระยะแรกมักมีดังนี้
- มีไข้ ปวดหัว หนาวสั่น
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย
- ตาแดง เจ็บตา
หากอาการลุกลามเข้าสู่ระยะรุนแรง อาจเกิดภาวะต่อไปนี้
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- ไตวาย
- ตับทำงานผิดปกติ (มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง)
- มีเลือดออกในร่างกายหรือหายใจลำบาก
แพทย์ย้ำว่า หากมีอาการไข้สูงไม่ลดลง หรือมีอาการเหลือง KUBET ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น
ใครบ้างที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง?
นอกจากช่วงที่มีน้ำท่วมหรือมีน้ำขังแล้ว KUBET กลุ่มอาชีพและกิจกรรมต่อไปนี้มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโรคเลปโตสไปโรซิส:
- เกษตรกรและผู้เลี้ยงสัตว์ เช่น ชาวนา ผู้เลี้ยงหมู หรือวัว
- พนักงานทำความสะอาด และเจ้าหน้าที่ระบายน้ำ
- ผู้ที่ชอบตั้งแคมป์หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- อาสาสมัครหรือเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหลังภัยพิบัติ
กลุ่มเหล่านี้มีความเสี่ยงเมื่อสัมผัสปัสสาวะของสัตว์ติดเชื้อ KUBET หรือสัมผัสดินและน้ำที่ปนเปื้อนผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง

วิธีป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส
แพทย์กั๋ว ตงเอิน เน้นย้ำว่า การป้องกันและการรักษาความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรปฏิบัติดังนี้
- สวมอุปกรณ์ป้องกัน: ขณะทำงานหรือลงน้ำ ควรใส่ถุงมือ รองเท้าบูท และเสื้อแขนยาว เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำสกปรกโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการให้น้ำโดนแผล: หากมีบาดแผล ควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หรือหลีกเลี่ยงการลงน้ำโดยตรง
- รักษาความสะอาดส่วนบุคคล: หลังทำงานหรือกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรรีบล้างมือและอาบน้ำด้วยสบู่ให้สะอาด
- ดื่มน้ำสะอาด: ควรต้มน้ำให้เดือดก่อนดื่ม หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำบาดาลหรือน้ำจากแม่น้ำที่ไม่ผ่านการกรอง
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์หนู: รักษาความสะอาดบริเวณบ้าน จัดเก็บอาหารและขยะให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้หนูมาอาศัย
คำเตือนจากแพทย์: ระวังหลังน้ำท่วม
แพทย์กั๋ว ตงเอิน เตือนว่า หลังเกิดฝนตกหนักหรือน้ำท่วม คือช่วงที่โรคเลปโตสไปโรซิสระบาดมากที่สุด ประชาชนที่ช่วยทำความสะอาดหลังน้ำท่วมควรระมัดระวัง KUBET โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังมีน้ำขัง ควรหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าหรือสัมผัสโคลนโดยตรง หากมีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ตัวเหลือง ปัสสาวะน้อย หรืออ่อนเพลีย ควรรีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งว่าเคยสัมผัสน้ำหรืองานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยได้เร็วขึ้น
สรุป
แม้ว่าโรคเลปโตสไปโรซิสจะไม่ใช่โรคที่พบได้บ่อย แต่ในช่วงฤดูฝนและน้ำท่วมก็ยังถือเป็นภัยต่อสาธารณสุขที่ไม่ควรมองข้าม KUBET ประชาชนสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม และระมัดระวังเมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพียงเท่านี้ก็สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและผ่านพ้นฤดูฝนได้อย่างปลอดภัย
Q&A
- โรคเลปโตสไปโรซิสเกิดจากอะไรและติดต่อได้อย่างไร?
ตอบ: โรคเลปโตสไปโรซิสเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิด Leptospira ติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยเชื้อจะปนออกมากับปัสสาวะของสัตว์ เช่น หนู สุนัข หมู วัว ม้า และแกะ และสามารถแพร่สู่คนเมื่อสัมผัสดินหรือแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนผ่านบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนัง - อาการเริ่มต้นของโรคเลปโตสไปโรซิสมีอะไรบ้าง?
ตอบ: อาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด ได้แก่ มีไข้ ปวดหัว หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย และอาจมีตาแดงหรือเจ็บตา - กลุ่มคนใดที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคเลปโตสไปโรซิส?
ตอบ: กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ เกษตรกรและผู้เลี้ยงสัตว์, พนักงานทำความสะอาดและเจ้าหน้าที่ระบายน้ำ, ผู้ที่ชอบตั้งแคมป์หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง และอาสาสมัครหรือเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหลังภัยพิบัติ - วิธีป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิสมีอะไรบ้าง?
ตอบ: วิธีป้องกัน ได้แก่ สวมอุปกรณ์ป้องกันเช่นถุงมือ รองเท้าบูท เสื้อแขนยาว, ปิดบาดแผลไม่ให้น้ำโดน, รักษาความสะอาดส่วนบุคคลและล้างมือ, ดื่มน้ำสะอาดหรือต้มน้ำก่อนดื่ม, และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์หนูรอบบ้าน - ทำไมช่วงหลังฝนตกหนักหรือน้ำท่วมจึงต้องระวังโรคเลปโตสไปโรซิสเป็นพิเศษ?
ตอบ: เพราะช่วงนี้น้ำขังทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่าย ผู้ที่สัมผัสน้ำหรือโคลนมีความเสี่ยงสูง หากมีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ตัวเหลือง หรือปัสสาวะน้อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว
เนื้อหาที่น่าสนใจ: